ประเทศศรีลังกาที่เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งประเทศนี้ไม่ได้อยู่ในลิสต์ประเทศที่เราอยากจะไปมากนัก จนกระทั่งเราได้เจอตั๋วราคาดีไม่แพง ช่วงโปรโมชั่นราคาถูกใจ และหลังจากนั้นเราจึงเริ่มทำการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศศรีลังกาและเราได้ค้นพบว่าประเทศศรีลังกามีความสวยงามทั้งด้านธรรมชาติและวัฒธรรม รวมไปถึงความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองต่างๆ ดังนั้นเราจึงจองเที่ยวบินไปกลับเพื่อไปสำรวจและท่องเที่ยวประเทศศรีลังกาด้วยตัวเอง รวมเวลาทั้งสิ้น 7 วัน
ในบล็อกโพสต์นี้ เราจะขอแนะนำแผนการเดินทางของเรา สำหรับการเดินทางแบบรอบๆของศรีลังกาเพื่อเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ของ เมือง Negombo ,เมือง Damballa ,เมือง Kandy ,เมือง Ella,เมือง Yala เมือง Tangelle และ เมือง Galle ในช่วงระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์
การเดินทาง Bangkok to Colombo
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า การตัดสินใจของเราที่จะเดินทางไปศรีลังกานั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากหลังจากที่เราได้เจอเที่ยวบินราคาโดนใจบน Sky Scanner เที่ยวบินของเราจากไทยไปศรีลังกาเป็นของสายการบินไทย ค่าตั๋วไปกลับ 2 ใบ ในชั้นประหยัด ราคา 9,216 บาท (4,608 บาทต่อคน) เที่ยวบินของเราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) ในกรุงเทพฯ เวลา 22:15 น. และถึงสนามบิน Bandaranaike ใน Negombo (40 กม. นอกเมืองหลวง Colombo) เวลา 00:10 น. ใช้เวลาบินทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง 25 นาที โดยเวลาในประเทศไทยนั้นจะเร็วกว่าประเทศศรีลังกา 1 ชั่วโมง 30 นาที
ถึงสนามบิน Bandaranaike แล้ว ตอนแรกตั้งใจว่าจะนอนที่สนามบินจนเช้าแล้วขึ้นรถบัสไป Dambulla แต่พอไปถึงก็เห็นว่าไม่มีที่นั่งหรือที่พักผ่อน ก็เลยนั่งแท็กซี่ไปโรงแรมใกล้ๆกันสำหรับคืนนี้
Day 1: Negombo - Kurunegala - Dambulla
หลังจากค่ำคืนอันยาวนาน เราตื่นแต่เช้าเพื่อรับประทานอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเดินไปที่สถานีขนส่ง Negombo เพื่อขึ้นรถบัสท้องถิ่นไปยัง เมือง Dambulla เวลาประมาณ 8:00 น. สถานีขนส่งนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากและทำให้เราสับสนในการไปขึ้นรถ อย่างไรก็ตาม ชาวศรีลังกาเป็นมิตรและพูดภาษาอังกฤษได้ดี ดังนั้นเราจึงสามารถหารถบัสที่ถูกต้องได้ เนื่องจากไม่มีรถบัสตรงจาก Negombo ไป Dambulla เราจึงต้องเดินทางไป Kurunegala ก่อนแล้วจึงเปลี่ยนรถโดยสาร จาก Negombo ถึง Kurunegala นั่งรถบัสใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ราคา 100 LKR (ประมาณ 10.08 บาท)
หลังจากมาถึง Kurunegala เราก็ทานอาหารกลางวันกันอย่างรวดเร็วที่สถานีขนส่ง ก่อนขึ้นรถบัสคันถัดไปเพื่อไป Dambulla นั่งรถบัส ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ราคา 95LKR (ประมาณ 9.57 บาท) เวลาเดินทางทั้งหมดจาก Negombo ถึง Dambulla รวมเวลาแวะพักทานอาหารกลางวันแล้วประมาณ 5 ชั่วโมงกว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ 195 LKR (ประมาณ 19.65 บาท) รถเมล์ก็ถูกมากแต่คนก็จะแน่นมาก ไม่มีเครื่องปรับอากาศและไม่มีห้องน้ำบนรถ
หลังจากมาถึง Dambulla ในตอนบ่ายแก่ๆ เราก็รีบเช็คอินห้องพักของเราที่ Milano Grand Hotel ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสถานีขนส่ง Dambulla จากนั้นเราก็เดินไปตามถนนเพื่อรับประทานอาหารกลางวันก่อนจะมุ่งหน้าไปยัง Dambulla Cave Temple ซึ่งห่างออกไปประมาณ 2 กม. ค่าเข้า Dambulla Cave Temple 1,500LKR (ประมาณ 151 บาทต่อคน) หลังจากใช้เวลาสำรวจ Dambulla Cave Temple ไม่กี่ชั่วโมง เราก็เดินกลับมาที่เมือง Dambulla เพื่อพักผ่อนที่โรงแรมก่อน และช่วงเย็นจึงค่อยออกไปหาอาหารเย็นทานกัน
Day 2: Dambulla - Sigiriya - Kandy
เช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นแต่เช้า กินอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วนั่งรถตุ๊กตุ๊กจาก Dambulla ไปที่ป้อมปราการหิน Sigiriya รวมระยะทางประมาณ 18 กม. ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ค่าเดินทางเที่ยวเดียวสำหรับ 2 คน 2,500LKR (ประมาณ 252 บาท) หลังจากมาถึง Sigiriya เราใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการท่องเที่ยวสำรวจป้อมปราการหิน ตั๋วสำหรับ Sigiriya มีราคาค่อนข้างแพง 30 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,030 บาทต่อคน) แต่ราคาก็คุ้มค่า การไต่ขึ้นสู่ยอด Lion Rock ใน Sigiriya มีทั้งหมด 1,270 ขั้นที่แบ่งออกเป็นส่วนๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที-1 ชั่วโมงในการขึ้นไปบนยอดเขา ทางขึ้นสูงชันและร้อนมาก แต่วิว 360 องศาจากด้านบนก็คุ้มค่าสวยงามมาก
หลังจากสำรวจ Sigiriya เสร็จแล้ว เราก็ไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารใกล้ๆ กันก่อนจะไปขึ้นรถบัสกลับไปที่ Dambulla รถเมล์ระหว่าง Sigiriya ไปยัง Dambulla ถูกมาก ราคาเพียง 40LKR (ประมาณ 4.03 บาท) ใช้เวลาเดินทาง 45นาที-1ชม. เนื่องจากรถจอดระหว่างทาง รถบัสคันแรกออกจาก Dambulla เวลาประมาณ 06:30 น. และรถบัสเที่ยวสุดท้ายออกจาก Sigiriya เวลาประมาณ 17:00 น. เมื่อเรากลับมาถึง Dambulla เราก็เก็บกระเป๋าเช็คเอาท์จากโรงแรม Milano Grand Hotel และกลับไปที่สถานีขนส่งเพื่อเดินทางจาก Dambulla ไป Kandy
จาก สถานีขนส่ง Dambulla เรานั่งรถมินิบัสมาที่ Kandy ระยะทางประมาณ 75 กม. แต่เนื่องจากรถวิ่งช้าและถนนมีคนเดินค่อนข้างพลุกพล่าน การเดินทางจึงใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าบริการ 400LKR (39บาท) ต่อคน รถมินิบัสจะจอดที่จุดต่างๆ ใน Kandy เพื่อให้คุณสามารถบอกชื่อที่พักของคุณกับคนขับได้ และคุณสามารถลงที่ป้ายใกล้เคียง เมื่อเรามาถึง Kandy เราลงที่ สถานีรถไฟ Kandy เนื่องจากเราต้องไปรับตั๋วโดยสารรถไฟไป Ella ในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เราได้ตั๋วแล้ว เราก็เดินไปที่ที่พักและเช็คอินที่ห้องของเราที่ Kandy City Hotel by Earl's จากนั้นเราก็ใช้เวลาช่วงเย็นเดินสำรวจเมืองเก่า Kandy และตลาด Kandy ก่อนรับประทานอาหารค่ำ แกงกะหรี่แสนอร่อย ก่อนที่จะกลับเข้าที่พักและนอนเก็บแรงในวันต่อไป
Day 3: Kandy - Ella
เนื่องจากรถไฟของเราจาก Kandy ไป Ella จะออกเดินทางเวลา 11:10 น. เราจึงตัดสินใจตื่นแต่เช้า เพื่อเราจะได้มีเวลาสำรวจ Kandy มากขึ้น และเราไปเยี่ยมชม The Temple of the Sacred Tooth Relic (Sri Dalada Maligawa/วัดพระเขี้ยวแก้ว) เวลาประมาณ 6:00 น. (วัดเปิดตั้งแต่ 05:30 น. - 20:00 น.) เนื่องจากเป็นช่วงเช้าตรู่วัดจึง เงียบสงบ นักท่องเที่ยวน้อยมาก เป็นโอกาสที่ดี ได้ไหว้พระและทำบุญ และมีคนในท้องถิ่น มาสวดมนต์และทำบุญด้วยเช่นกัน ค่าเข้า The Temple of the Sacred Tooth Relic 1,500LKR (ประมาณ 149 บาท)
หลังจากทำบุญที่วัดพระเขี้ยวแก้วแล้ว เราก็ซื้อของฝากจากตลาดหน้าวัด แล้วไปทานอาหารเช้าที่ร้านเบเกอรี่ในเมืองเก่าก่อนจะเดินเล่นรอบทะเลสาบ Kandy หลังจากเดินไปรอบ ๆ ทะเลสาบ เราก็กลับไปที่พัก Kandy City Hotel by Earl's เพื่อเช็คเอาท์ จากนั้นเราไปที่สถานีรถไฟ Kandy เพื่อรอรถไฟของเราไป Ella
รถไฟออกจากแคนดี้เวลา 11:10 น. เราจองตั๋วชั้นหนึ่งล่วงหน้าประมาณหนึ่งเดือนบนเว็บไซต์ Visit Sri Lanka Tours เนื่องจากบริษัทตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร เราจึงจ่ายเงิน 14 ปอนด์ต่อคน (ประมาณ 605 บาท) สำหรับตั๋วเที่ยวเดียว การจองล่วงหน้าจะมีราคาแพงกว่าการจองที่สถานีรถไฟ แต่เป็นวิธีเดียวที่จะรับประกันได้ว่าคุณจะได้ที่นั่งบนรถไฟอย่างแน่นอน เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง ตั๋วชั้นสองและชั้นสามก็มีขายเช่นกัน แต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ และตู้โดยสารมักเต็มไปด้วยผู้คนที่ยืนอยู่ตรงทางเดิน
การเดินทางทั้งหมดจาก Kandy ไปยัง Ella ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง และเรามาถึง สถานีรถไฟ Ella หลังเวลา 18:00 น. จากสถานีรถไฟ Ella เราเดินไปที่พักที่ Ella Mount View Guest Inn ซึ่งห่างออกไป 1.2 กม. จากนั้นเราใช้เวลายามเย็นเดินไปตามถนนสายหลักใน Ella แวะทานอาหารเย็น ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆและซื้อของที่ระลึก ก่อนที่เราจะกลับไปที่ Ella Mount View Guest Inn เพื่อพักผ่อนเตรียมตัวเที่ยวในวันต่อไป