เที่ยวเซี่ยงไฮ้และหางโจว 9 วัน คู่มือเที่ยวครั้งแรก เที่ยวง่าย เดินทางด้วยตัวเอง ถ้าพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย!!
- Kungwan Auksorn
- 2 วันที่ผ่านมา
- ยาว 8 นาที
การเดินทางของเราสองคนเริ่มต้นอีกครั้งที่เซี่ยงไฮ้ และเป็นครั้งแรกของเราที่เซี่ยงไฮ้เช่นเดียวกัน ตัดสินใจอยู่นานเหมือนกันว่าเราจะเที่ยวที่เมืองนี้ดีไหม เพราะจากดูจากจำนวนคนที่เซี่ยงไฮ้ที่เยอะมากจะดูวุ่นวายมากเกินไปไหมแล้วก็กังวลเรื่องอาหาร เรื่องภาษาจะสื่อสารได้ไหม และเวลาเดินทางจะมีปัญหาอะไรไหม นี่คือสิ่งที่เราคิดมาโดยตลอด แต่ท้ายสุดสิ่งต่างๆเป็นเพียงที่เราคิดเอาไว้เราจำเป็นที่จะต้องไปลองดูด้วยตัวเราเองเพื่อเราจะได้ตอบคำถามต่างๆที่เราได้ตั้งไว้มากมาย และสิ่งที่ท้าทายของพวกเราก็เริ่มขึ้นกับทริปท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้ หางโจ แบบจัดเต็ม 9 วัน ถ้าพร้อมกันแล้วไปดูกันว่าในทริปของเราจะเป็นยังไงบ้าง ไปกันเลย!!
🗓️คู่มือเที่ยวเซี่ยงไฮ้ครั้งแรกเดินทาง 9 วัน (เซี่ยงไฮ้และหางโจว)
DAY 1
เราเริ่มต้นเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ สำหรับครั้งนี้เราบินกับสายการบิน Xiamen Airlines แวะพักที่ เซียะเหมิน (Xiamen City) 3 ชั่วโมง แล้วก็บินต่อมาถึง สนามบินเซี่ยงไฮ้หงเฉียว (Shanghai Hongqiao Airport) เวลา 21:00 น.
เคล็ดลับการเดินทางเข้าเมือง: เมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน Shanghai Hongqiao Airport การเดินทางเข้าเมืองง่ายมาก มองหาป้าย Subway เพื่อต่อรถไฟเข้าเมือง จากนั้นใช้ รถไฟฟ้า Metro Line 2 ไปลงที่ Nanjing East Station เพื่อเข้าโรงแรม Fish Inn Hotel
เรานั่งรถไฟไปยังสถานี Nanjing East Station เพื่อที่จะไปยังโรงแรมของเราที่ได้จองไว้ Fish Inn Hotel เมื่อถึงโรงแรมเราก็ขอนอนพักผ่อนก่อนสำหรับวันแรกที่เดินทางมาถึง
สำหรับที่พัก 4 คืน ของเราในเซี่ยงไฮ้เราเลือกพักที่โรงแรม Fish Inn Hotel ที่เราเลือกโรงแรมนี้เพราะว่าอยู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟเดินทางง่าย มีร้านค้าร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ เดินทางสะดวก และราคาไม่แพง เราคิดว่าทั้งวันเราออกไปเดินเที่ยวข้างนอกกันห้องพักก็เลยไม่อยากจ่ายเยอะเกินไป
ระดับดาว: ⭐⭐⭐
คะแนนรีวิว: Excellent (8.4)
สถานที่ใกล้เคียง: Nanjing Road Shopping District 300m, The Bund 500m, People's Square 1.5km, Yu Garden 1.6km
การคมนาคมในบริเวณใกล้เคียง: East Nanjing Road Metro Station (Line 2 & 10) 150m, Puxi Tram Stop 600m
ราคาห้องพัก: 1,300 - 3,200 บาท ++ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประเภทห้องและฤดูกาลท่องเที่ยว)
คลิกด้านล่างเพื่อจองห้องพักที่โรงแรม Fish Inn East Nanjing Road ผ่าน Agoda หรือ Trip.com
DAY 2
เริ่มต้นการสำรวจเมืองเซี่ยงไฮ้ของเรา ตื่นเต้นมาก อีกอย่างคือช่วงที่เรามาอากาศเย็นสบายเดินเล่นชิวๆได้เลย บรรยากาศดีมาก เราจองโรงแรมไม่รวมอาหารเช้าเพราะเราตั้งใจมาเดินเล่นตอนเช้าแล้วก็หาอาหารเช้ากินด้วยเลยง่ายดี
เราเริ่มเดินจากโรงแรมไปจุดชมวิวเดอะบันด์ สำหรับการเที่ยวครั้งแรกในเซี่ยงไฮ้ เราออกมาเช้าหน่อยสำหรับวันแรก เราตื่นตาตื่นใจกับอาคารอันสวยงามรอบๆในพื้นที่แห่งนี้ สวยและมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเยอะมาก และในจุดบริเวณนี้เราก็แวะทานอาหารเช้ากันที่ Starbucks ระหว่างทางที่เราเดินชมเมือง
The Bund (เดอะบันด์)
เป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำที่สวยที่สุดของเซี่ยงไฮ้ เห็นอาคารเก่าแก่ฝั่ง Puxi คู่กับตึกระฟ้าสุดล้ำฝั่ง Pudong
การเดินทาง: เดินจากสถานี Nanjing East Station (Metro Line 2 หรือ Line 10)
ค่าเข้า: ฟรี!
ไฮไลท์: ต้องมาช่วงค่ำเพื่อชมแสงสีตระการตาของตึกสูง (ปกติไฟจะปิดประมาณ 22:00 น.)
The Bund Sightseeing Tunnel
อุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำหวงผู่ที่มีชื่อเสียงด้านสีสันและเอฟเฟกต์แสงสีอันตื่นเต้น
การเดินทาง: เดินจาก Nanjing East Station ไปทางแม่น้ำ
ราคา: ประมาณ 50 หยวน (เที่ยวเดียว)
เคล็ดลับ: พอนั่งรถไฟลอดอุโมงค์ไปยังอีกฝั่งแล้วให้เราเที่ยวอีกฝั่งให้ครบไปเลยและซื้อตั๋วแบบเดินทาง ไป-กลับ
Mingzhu Roundabout
หลังจากที่เราเดินทางลอดอุโมงค์มาอีกฝั่งของแม่น้ำ ซึ่งเราก็จะมาอยู่ในโซนของหอไข่มุก ซึ่งพื้นที่โซนนี้ก็จะมีห้างสรรพสินค้าเยอะและโซนเดินเที่ยวก็เยอะเราเลือกที่จะมาหาอะไรกินแถวนี้และเที่ยวรอบๆนี้ให้ครบจนถึงช่วงเย็นไปเลย เราซื้อตั๋วรถไฟลอดอุโมงค์แบบไป-กลับ เราก็เลยจะเดินเที่ยวจนถึงช่วงรถไฟรอบสุดท้ายเลย
Super Brand Mall
เราเดินชมเมืองมาเรื่อยๆตื่นตาตื่นใจตึกที่สูงระฟ้า บ้านเมืองที่ทันสมัย และตอนนี้เราก็รู้สึกหิวแล้วและหิวมากด้วย เราจึงได้มาแวะทานเข้ากันที่ห้าง Super Brand Mall
Holiland Bakery
เมื่อเราทานข้าวแบบอิ่มสุดๆ กิจกรรมหลังจากนี้ก็คือการเดินชมและช้อปในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ เดินสำรวจสินค้าในแต่ละอย่าง พร้อมกับเลือกซื้อของฝากที่มีร้านค้ามากมายให้เลือก
Qingzhi Handcream
จากนั้นเราก็เดินผ่านอีกร้านที่ดึงดูดด้วยกลิ่นหอมและมีลูกค้าที่เดินเข้า-ออกค่อนข้างที่จะเยอะพอสมควร เราจึงต้องเข้าไปลองสัมผัสกลิ่นและเราได้เลือกของจากที่นี่เป็นของฝากด้วย
Oriental Pearl Park (Riverside)
จากห้างสรรพสินค้า Super Brand Mall เราจึงเดินต่อไปยังโซนที่เป็นสวนสาธารณะริมแม่น้ำ อากาศกำลังดี น่าจะไปเดินเล่นสูดอากาศกันก่อน
ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่หอไข่มุก(Oriental Pearl Tower)
เราเดินเล่นนั่งชิวอยู่สวนสาธารณะไม่นาน เราก็อยากจะไปชมวิวสวยๆในยามค่ำคืนของเมืองเซี่ยงไฮ้ สำหรับช่วงเย็นใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดินเราจึงเลือกที่จะขึ้นไปชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้ที่หอไข่มุก
IFC Mall
หลังจากที่เราได้ไปชมวิวกลางคืนอันสวยงามของเมืองเซี่ยงไฮ้กันแล้ว และเราก็รู้สึกหิวอีกแล้วก็เลยหาร้านอาหารใกล้ๆบริเวณนั้นและเราก็เดินไปกินข้าวเย็นกันที่ IFC Mall
หลังจากที่เราได้ทานข้าวเย็นเสร็จแล้วและเก็บภาพสวยๆที่จุดแลนก์มาร์กของที่นี่แล้ว เราก็ต้องเดินทางกลับไปยังสถานีลอดใต้อุโมงค์ที่เรานั่งรถไฟมาเพื่อกลับไปยังต้นทาง และตรงสถานีรถไฟที่เราจะนังกลับก็อยู่ใกล้สวนสาธารณะริมแม่น้ำ เราจึงขอแวะไปชมวิวกลางคืนของอีกฝั่งก่อนกลับ
เมื่อเราชมวิวอีกฝั่งในยามค่ำคืนแล้วเราก็ไปขึ้นรถไฟกลับไปยังฝั่งเดอะบันด์ เราสามารถนำตั๋วรถไฟที่เราซื้อไปเข้าชมเครื่องเล่นของ AR ได้ก่อนที่เราจะไปนั่งรถไฟกลับ
นั่งรถไฟกลับมาถึงฝั่งเดอะบันด์แล้ว เราก็ขอแวะมาเก็บภาพบรรยากาศจุดชมวิวของเดอะบันด์ในยามค่ำคืนเพิ่มเติมก่อนที่เราจะเดินกลับไปยังโรงแรมของเรา ซึ่งเป็นเส้นทางเดิมที่เราเดินมาเมื่อช่วงเช้า
DAY 3
North Bund
สำหรับวันที่ 3 ของเราในเซี่ยงไฮ้ เมื่อวานเราได้เดินเที่ยวในโซนที่ไม่ไกลมาก และสำหรับวันนี้ของพวกเราก็วางแผนไว้ว่าจะออกไปเที่ยวในโซนที่ไกลขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีจุดเช็คอินสำคัญยอดนิยมที่ใครๆก็ห้ามพลาด ซึ่งจุดถ่ายภาพนี้จะอยู่ในโซน North Bund และเราก็เริ่มเดินจากโรงแรมที่เราพัก
Xiantiandi (French Concession)
และสถานที่ต่อไปที่เราจะเดินทางไปก็คือ เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเซี่ยงไฮ้ ที่โดดเด่นด้วยการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมของเมืองเอาไว้ พร้อมกับการปรับปรุงให้ทันสมัยและหรูหรา กลายเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์สุดชิค ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเล่นอยู่ในย่านยุโรป
Jellooo Bistro
เราเดินชมเมืองมาเรื่อยๆและก็เริ่มหิวกันแล้วเราจึงเดินหาร้านอาหารที่ Xintiandi ซึ่งร้านอาหารก็มีให้เลือกเยอะมาก และแต่ละร้านก็มีเมนูน่ากินเยอะเลย เราจึงเลือกทานอาหารกันที่ร้าน Jellooo Bistro
Tiangzifang
หลังจากที่เราทานข้าวอิ่มแล้ว เราก็เดินเล่นแถวนี้อีกนิดหน่อย และจากนั้นเราก็เดินต่อไปยัง Tianzifang เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ พลาดไม่ได้ เมื่อมาเยือนเซี่ยงไฮ้ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ วัฒนธรรมเก่าแก่ และบรรยากาศแบบโบฮีเมียน ที่นี่เป็นย่านตรอกซอยแคบๆ ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ในยุคทศวรรษ 1930
Shanghai Museum East Branch
เมื่อเราเดินเล่นและซื้อของฝากกันที่ Tianzifang แล้วเราก็เรียกรถ DIDI แอป Alipay เพื่อเดินทางไปยังShanghai Museum East Branch ขุมสมบัติศิลปะจีนโบราณแห่งผู่ตง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ล่าสุดในเซี่ยงไฮ้ เป็นส่วนต่อขยายของ Shanghai Museum หลักที่ People's Square ซึ่งมุ่งเน้นการจัดแสดงศิลปะและวัตถุโบราณของจีนอย่างครอบคลุมมากขึ้น ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ การออกแบบที่ทันสมัย และคอลเลกชันที่น่าประทับใจ ที่นี่จึงเป็นจุดที่คนรักประวัติศาสตร์และศิลปะ
Century Link Mall
หลังจากที่เราเข้าไปชมที่ Shanghai Museum East Branch แล้วจนถึงเวลาใกล้ที่จะปิดพิพิธภัณฑ์แล้ว เราก็เลยเดินไปยังสถานีรถไฟเพื่อเดินทางกลับ ซึ่งเราคุยกันว่าจะแวะกินข้าวเย็นที่ห้างสรรพสินค้าในระหว่างทางที่เราเดินทางกลับก็จะง่ายขึ้นไม่ต้องแวะหลายที่
DAY 4
Yu Garden (สวนอวี้หยวน)
สวนแห่งความสุขใจกลางเซี่ยงไฮ้Yu Garde หรือที่รู้จักกันในชื่อ Yuyuan Garden ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า (Old City) ของเซี่ยงไฮ้ เป็นสวนจีนคลาสสิกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองนี้ และเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของสถาปัตยกรรมสวนแบบ เจียงหนาน (Jiangnan) ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง สวนจีนโบราณที่สวยงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นสถานที่ที่สงบและร่มรื่นมาก
การเดินทาง: Metro Line 10 ไปลงสถานี Yuyuan Station, ทางออก 1.
เวลาเปิด-ปิด: 9:00–16:30 น. (ปิดวันจันทร์)
ราคา: 40 หยวน (ช่วงฤดูท่องเที่ยว)
เคล็ดลับ: ควรไปถึงตั้งแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะและเดินชมบรรยากาศตลาดโบราณรอบ ๆ สวน
Jing'an Temple (วัดจิ้งอาน)
วัดพุทธที่สวยงามด้วยกระเบื้องทองอร่าม ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ แสดงถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว
การเดินทาง: Metro Line 2 ไปลงสถานี Jing'an Temple Station, ทางออก 1.
เวลาเปิด-ปิด: 7:30–17:00 น.
ราคา: ประมาณ 30–50 หยวน
เคล็ดลับ: เป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยมาก เพราะวัดดูโดดเด่นท่ามกลางตึกสูง
Shanghai Greenhouse Garden
สวนเรือนกระจกสุดล้ำ ใหญ่ที่สุดในเอเชีย (上海温室花园 - Shànghǎi Wēnshì Huāyuán) เป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในเซี่ยงไฮ้ เป็นส่วนหนึ่งของ Shanghai World Expo Culture Park (อุทยานวัฒนธรรมโลกเซี่ยงไฮ้เวิลด์เอ็กซ์โป) โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมกระจกใสรูปทรงโค้งคล้ายก้อนเมฆที่ทันสมัยและล้ำยุค ภายในรวบรวมพรรณไม้หายากจากทั่วโลกมาจัดแสดงในระบบนิเวศจำลองที่น่าทึ่ง
ล่องเรือแม่น้ำหวงผู่ (Huangpu River Cruise)
ประสบการณ์ที่ห้ามพลาดในเซี่ยงไฮ้การล่องเรือในแม่น้ำหวงผู่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชมความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมเก่าแก่และอาคารระฟ้าอันทันสมัยได้อย่างลงตัว แม่น้ำหวงผู่เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่แบ่งเซี่ยงไฮ้ออกเป็นสองฝั่งหลัก คือ ผู่ซี (Puxi) ทางฝั่งตะวันตก (บริเวณเดอะบันด์) ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารสไตล์โคโลเนียลเก่าแก่ และ ผู่ตง (Pudong) ทางฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มตึกระฟ้าและศูนย์กลางทางการเงินที่โดดเด่นของโลก
ถนนหนานจิง (Nanjing Road)
หัวใจแห่งการค้าและสีสันของเซี่ยงไฮ ถนนหนานจิงเป็นที่รู้จักในนาม "ถนนการค้าอันดับหนึ่งของจีน" เป็นสวรรค์ของนักช้อปและเป็นศูนย์รวมพลังชีวิตชีวาของเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่นี่ผสมผสานเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่เข้ากับความทันสมัยของห้างสรรพสินค้าและไฟนีออนที่สว่างไสว
DAY 5
Shanghai Science and Technology Museum
ประตูสู่โลกแห่งวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะมาเยือนเซี่ยงไฮ้และกำลังมองหาสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างการศึกษาและความบันเทิงได้อย่างลงตัว Shanghai Science and Technology Museum (SSTM) คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด! พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่นี้ตั้งอยู่ในย่านผู่ตง (Pudong) ใกล้กับ Century Park ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์กลางแห่งความรู้และนวัตกรรมของเมือง
Pony AI Robotaxi
ประสบการณ์แห่งอนาคตในการเดินทางที่เซี่ยงไฮ้การเดินทางด้วยรถแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ของ Pony.ai ในเซี่ยงไฮ้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเดินทาง แต่เป็น ประสบการณ์ท่องเที่ยวแห่งโลกอนาคต ที่นักท่องเที่ยวสายเทคโนโลยีและการผจญภัยไม่ควรพลาด! บริการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของเซี่ยงไฮ้ในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติ
Shanghai Tower (เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์)
Shanghai Tower แลนด์มาร์กเหนือเมฆแห่งมหานครเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่แค่ตึกธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความทะเยอทะยานของจีน ด้วยดีไซน์เกลียวบิดอันเป็นเอกลักษณ์ และตำแหน่ง ตึกที่สูงที่สุดในประเทศจีน (และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ณ ปี 2025)
การเดินทาง: Metro Line 2 ไปลงสถานี Lujiazui Station, ทางออก 6.
เวลาเปิด-ปิด: 8:30–22:00 น.
ราคา:ประมาณ 180 - 220 หยวน
เคล็ดลับ: แนะนำไปช่วงเย็นเพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตกและแสงไฟยามค่ำคืนของเซี่ยงไฮ้
Shanghai Hongqiao Railway Station
สถานีนี้เปรียบเสมือน "หัวใจ"เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการคมนาคมที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชีย ของการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Rail) ในจีนฝั่งตะวันออก เชื่อมต่อเซี่ยงไฮ้เข้ากับเมืองหลักทั่วประเทศ เช่น ปักกิ่ง, หางโจว, ซูโจว และหนานจิง ด้วยความเร็วที่ทำให้การเที่ยวข้ามเมืองเป็นเรื่องง่ายเหมือนนั่งรถเมล์
Bullet train Shanghai to Hangzhou
การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Train) จาก เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ไปยัง หางโจว (Hangzhou) เป็นเส้นทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างแนะนำ เพราะทั้งสะดวก รวดเร็ว และทำให้คุณสามารถเที่ยวหางโจวแบบ Day Trip ได้สบายๆ Shanghai to Hangzhou Bullet Train การเดินทางนี้เชื่อมต่อสองเมืองใหญ่ด้วยระยะทางประมาณ 170-190 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเพียงประมาณ 45 – 90 นาที (ขึ้นอยู่กับประเภทขบวน)
สำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวหางโจว (Hangzhou) และมองหาที่พักที่เดินทางสะดวก ราคาน่ารัก และอยู่ใกล้แลนด์มาร์คสำคัญ Home Inn Plus (如家精选酒店) เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงมากในหมู่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะสาขาแถว West Lake (ทะเลสาบซีหู)
ระดับดาว: ⭐⭐⭐
คะแนนรีวิว: Outstanding (9.4)
สถานที่ใกล้เคียง: West Lake (Xi Hu) 300m, Hubin Road Pedestrian Street 100m, Hubin in77 Shopping Mall 200m, Music Fountain 400m
การคมนาคมในบริเวณใกล้เคียง: Longxiangqiao Metro Station (Line 1) 300m, Longxiangqiao Bus Terminal 350m, Hangzhou Railway Station 2.8km
ราคาห้องพัก: 1,000 - 2,800 บาท ++ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประเภทห้องและฤดูกาลท่องเที่ยว)
คลิกด้านล่างเพื่อจองห้องพักที่โรงแรม Home Inn Plus Hangzhou West Lake Lakeside Pedestrian Street ผ่าน Agoda หรือ Trip.com
Hangzhou Hubin in77
ที่นี่ไม่ใช่แค่ห้างสรรพสินค้าทั่วไป แต่เป็นย่านไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่ที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น และที่สำคัญที่สุดคือตั้งอยู่ติดกับ ทะเลสาบซีหู (West Lake) มรดกโลกชื่อดังเพียงแค่ถนนกั้น
ร้าน New Found Restaurant
ความคุ้มค่าระดับ 5 ดาว เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่อง "ราคาที่เป็นมิตร" มากๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพอาหารและบรรยากาศ ร้านนี้จึงเป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัว วัยรุ่น และพนักงานออฟฟิศ
DAY 6
Home Inn Plus Hangzhou
ทำเลทองสำหรับโรงแรมนี้จะอยู่ใกล้กับ ถนนคนเดิน Hefang และ West Lake ซึ่งสำหรับวันนี้เราก็จะเดินไปรอบๆทะเลสาบที่อยู่ใกล้เพื่อชมวิวในช่วงเช้า วันนี้อากาศดีเย็นๆ เราจึงขึ้นมาทานอาหารเช้าที่โรงแรมกันก่อน
West Lake (ซีหู) สวรรค์บนดินแห่งเมืองหางโจว
ทะเลสาบซีหูไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งน้ำขนาดใหญ่ใจกลางเมือง แต่เป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม (UNESCO) ที่รวมเอาศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว จนได้รับฉายาว่า "สวรรค์บนดิน"
Grand Canal หรือ คลองต้ายวิ่นเห
คือคลองขุดโดยฝีมือมนุษย์ที่ ยาวที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก เริ่มขุดมาตั้งแต่ 2,500 ปีก่อน เชื่อมต่อระหว่างปักกิ่ง (เหนือ) และหางโจว (ใต้) โดยหางโจวถือเป็นจุดสิ้นสุดทางทิศใต้ของเส้นทางประวัติศาสตร์สายนี้
Hubin Square
จากนั้นเมื่อเราชมพระอาทิตย์ตกดินได้ภาพสวยๆแล้วเราก็เดินทางกลับไปยัง Hubin Square ซึ่งโรงแรมที่เราพักก็อยู่ใกล้แถวนี้ เราเดินเล่นหาซื้อของและกินข้าวเย็นกันที่นี่ก่อนที่เราจะเดินกลับไปยังโรงแรมของเรา
Feilai Peak (The Peak That Flew Hither)
สำหรับวันนี้เราออกเดินทางตั้งแต่เช้าเลย เพราะเราได้หาข้อมูลไว้แล้วว่าที่ Feilai Peak จะเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเยอะมาก รวมทั้งกรู๊ปทัวร์ด้วย เราจึงเรียกรถ DIDI ออกเดินทางตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อให้ทันเข้าชมตอนเปิดเลย
วัดหลิงหยิน (Lingyin Temple)
หรือ "วัดอารามวิถีแห่งจิตวิญญาณ" เป็นหนึ่งในวัดพุทธที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีน ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและป่าไม้ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบซีหู (West Lake) เมืองหางโจว
วัดหย่งฝู (Yongfu Temple )
เป็น "อัญมณีที่ซ่อนอยู่" ในเมืองหางโจวอย่างแท้จริง แม้จะตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับวัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) ที่โด่งดังระดับโลก แต่ที่นี่กลับให้บรรยากาศที่เงียบสงบ ร่มรื่น และมีเสน่ห์ทางศิลปะที่แตกต่างออกไป
เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda)
เจดีย์แห่งนี้แต่มีความพิเศษที่การผสมผสานระหว่าง ประวัติศาสตร์พันปี และ เทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้าด้วยกัน ตำนานนางพญางูขาว (The Legend of the White Snake)ตามตำนานเล่าว่า "ไป๋ซู่เจิน" (นางพญางูขาว) ถูกหลวงจีนฝาไห่กักขังไว้ใต้เจดีย์แห่งนี้เพื่อแยกเธอออกจากสามีที่เป็นมนุษย์ ทำให้เจดีย์นี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่เป็นอมตะ
West Lake Foreign Affairs Cruise
เรือของบริษัท Foreign Affairs Cruise Company แตกต่างจากเรือท่องเที่ยวทั่วไปตรงที่เป็นเรือที่ใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและคณะทูตต่างประเทศมาอย่างยาวนาน จุดเด่นคือเรือที่มีดีไซน์แบบ "Painted Boat" หรือเรือวาดลวดลายโบราณที่ประณีต สวยงาม ให้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในภาพวาดจีนโบราณ
Su Causeway
เป็นทางเดินยาวประมาณ 2.8 กิโลเมตร ที่ตัดผ่านทะเลสาบซีหู เชื่อมระหว่างฝั่งทิศใต้และทิศเหนือ ทางเดินนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1089 โดย "ซูตงพั่ว" (Su Dongpo) กวีเอกและข้าหลวงใหญ่ในสมัยราชวงศ์ซ่ง เพื่อใช้ดินที่ขุดลอกจากการบูรณะทะเลสาบมาทำเป็นพนังกันน้ำ
Qinghefang Pedestrian Street
ถนนสายนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Wu Shan และอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบตะวันตก (West Lake) เป็นถนนสายเดียวในเมืองหางโจวที่ยังคงรักษาสภาพบ้านเรือนและบรรยากาศแบบโบราณจากสมัย ราชวงศ์ซ่งใต้ (Southern Song Dynasty) ไว้ได้ดีที่สุด
Grandma's Home (Wai Po Jia)
รสชาติอาหารฝีมือคุณยายแห่งหางโจว Grandma's Home หรือในชื่อภาษาจีนว่า "ไว่โผเจีย" เป็นร้านอาหารที่เริ่มต้นขึ้นในเมืองหางโจวเมื่อปี 1998 และกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับประเทศ ด้วยคอนเซปต์ "อาหารบ้านๆ รสชาติที่คุณยายทำให้กิน" ในราคาที่ใครก็เข้าถึงได้ จนตอนนี้ขยายสาขาไปทั่วจีนและดังไกลไปถึงนิวยอร์ก
DAY 8
West Lake Cultural Square
สถาปัตยกรรมและบรรยากาศ ดีไซน์ทันสมัยตัวจัตุรัสโดดเด่นด้วยตึกระฟ้าและอาคารทรงโมเดิร์น โดยมีตึก Global Center สูงตระหง่านเป็นฉากหลัง เป็นจุดที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัย ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น
Wildlands Hangzhou
Wildlands: The World Wildlife of Kenneth E. Behring เป็นหนึ่งในนิทรรศการถาวรที่โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ตั้งอยู่ภายใน Zhejiang Museum of Natural History (พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเจ้อเจียง) ณ เมืองหางโจว นิทรรศการนี้เกิดขึ้นจากการบริจาคของ Kenneth E. Behring มหาเศรษฐีและนักการกุศลชาวอเมริกัน ผู้หลงใหลในสัตว์ป่าและต้องการสร้างแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์
สำหรับในคืนสุดท้ายที่หางโจวของเรา เที่ยวบินที่จะกลับไทย จะเป็นเที่ยวเป็นตอนเช้า เราก็เลยคิดว่าเราไปพักในสนามบินเลยจะดีกว่า เพราะอยู่ใกล้เดินทางง่าย เพราะถ้าเราพักในเมืองต้องเผื่อเวลาเดินทางนาน พอเรารับกระเป๋าจากโรงแรมแล้วเราก็นั่งรถไฟมุ่งหน้าไปยังสถานี Xiaoshan International Airport
ระดับดาว: ⭐⭐⭐⭐
คะแนนรีวิว: Exceptional (9.5)
สถานที่ใกล้เคียง: Hangzhou Xiaoshan International Airport (Terminal 4) 150m, Airport Duty Free 200m
การคมนาคมในบริเวณใกล้เคียง: Xiaoshan International Airport Metro Station (Line 1, 7, 19) 300m, Airport Shuttle Bus Terminal 400m
ราคาห้องพัก: 1,800 - 3,500 บาท ++ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประเภทห้องและฤดูกาลท่องเที่ยว)
คลิกด้านล่างเพื่อจองห้องพักที่โรงแรม Hyatt Place Hangzhou International Airport ผ่าน Agoda หรือ Trip.com
DAY 9
Xiaoshan International Airport
วันเดินทางกลับไทยของเรา เราตื่นแต่เช้าเพราะเผื่อเวลาไปหาอะไรกินก่อนในสนามบิน เราก็เดินจากโรงแรมเข้าไปสนามบินเพื่อเช็คอินได้เลย ง่ายและสะดวกมาก
สนามบินหางโจว เซียวซาน เป็นสนามบินที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในมณฑลเจ้อเจียง ปัจจุบันมีอาคารผู้โดยสารหลักที่นักท่องเที่ยวไทยต้องรู้จักคือ Terminal 4 (T4) ซึ่งเป็นอาคารใหม่ล่าสุดและสวยงามมาก (มักถูกเรียกว่า "Garden Airport") โดยรองรับทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ
🇨🇳สรุปทริปเซี่ยงไฮ้-หางโจว 9 วัน ประสบการณ์เที่ยวเองครั้งแรกที่ประทับใจไม่รู้ลืม
สำหรับใครที่กำลังลังเลว่า "ไปจีนครั้งแรก... จะรอดไหม?" บอกเลยว่าทริปเซี่ยงไฮ้และหางโจว 9 วันนี้ จะเปลี่ยนความคิดคุณไปตลอดกาล เพราะนี่คือเส้นทางที่ผสมผสานความล้ำสมัยระดับโลกเข้ากับเสน่ห์ทางวัฒนธรรมได้อย่างลงตัวที่สุด
🚇 การเดินทางที่แสนสะดวกและทันสมัย
การเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองในสองเมืองนี้ "ง่ายกว่าที่คิดมาก" ระบบรถไฟใต้ดิน (Metro) ครอบคลุมทุกจุดท่องเที่ยวสำคัญ ป้ายบอกทางชัดเจน มีภาษาอังกฤษกำกับตลอด ส่วนการเดินทางระหว่างเซี่ยงไฮ้ไปหางโจวด้วยรถไฟความเร็วสูงก็รวดเร็วและตรงเวลาสุดๆ ทำให้การวางแผนเที่ยวด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่สบายและไม่ยุ่งยากเลย
🏙️ บ้านเมืองสะอาดและล้ำยุค
ภาพจำเดิมๆ เกี่ยวกับเมืองจีนจะหายไปทันทีที่คุณก้าวเท้าเข้าสู่เซี่ยงไฮ้ เมืองนี้มีความเป็นเมืองแห่งอนาคต ตึกระฟ้าดีไซน์ล้ำสมัย พื้นที่สาธารณะสะอาดสะอ้าน มีสวนสาธารณะกระจายอยู่ทั่วเมือง ส่วนหางโจวก็เป็นเมืองที่ร่มรื่นและเงียบสงบ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแต่ยังคงความสะดวกสบายของเมืองยุคใหม่ไว้ครบถ้วน
❤️ ความประทับใจกับการต้อนรับของคนที่นี่
สิ่งหนึ่งที่เหนือความคาดหมายคือ "มิตรภาพจากคนท้องถิ่น" ตลอด 9 วัน เราเจอผู้คนที่ยิ้มแย้มและพร้อมช่วยเหลือเสมอ แม้จะสื่อสารกันคนละภาษา แต่ทุกคนพยายามใช้แอปฯ แปลภาษาเพื่อหาคำตอบให้เรา ความใจดีของคนที่เราเจอระหว่างทางทำให้ทริปนี้
🍲 สวรรค์ของคนรักอาหาร
เรื่องกินคือที่สุด! อาหารที่นี่รสชาติถูกปากคนไทยอย่างเราแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น เสี่ยวหลงเปา ไส้ทะลักที่เซี่ยงไฮ้ หรือ ปลาในทะเลสาบซีหู อันเลื่องชื่อของหางโจว ทุกมื้อคือความสุข แถมปัจจุบันการสั่งอาหารและจ่ายเงินผ่านแอปฯ (Alipay) ก็สะดวกและรวดเร็วมาก
📱 แอปพลิเคชันสำคัญที่ ต้องมี สำหรับเที่ยวจีน
นี่คือเครื่องมือที่ทำให้ทริปเราง่ายขึ้นมาก! ควรดาวน์โหลดและตั้งค่าให้เรียบร้อยก่อนเดินทางไปจีน:
แอปพลิเคชัน | ใช้สำหรับ | เหตุผลที่จำเป็น |
Alipay / WeChat Pay | ระบบชำระเงินดิจิทัล | จีนแทบจะไม่ใช้เงินสดเลย! Alipay เป็นแอปที่นักท่องเที่ยวสามารถผูกบัตรเครดิตระหว่างประเทศและใช้จ่ายได้ง่ายที่สุด |
Didi | เรียกรถ (คล้าย Grab/Uber) | แอปเรียกรถที่ใหญ่ที่สุดในจีน สะดวกมากสำหรับการเดินทางระยะไกล หรือช่วงที่หาแท็กซี่ยาก |
Amap / Baidu Maps | แผนที่นำทาง | Google Maps มักมีปัญหาในจีน ใช้แอปแผนที่ท้องถิ่นอย่าง Amap (หรือ Gaode Maps) เพื่อดูเส้นทางรถเมล์ รถไฟฟ้า และเดินเท้าที่แม่นยำ |
🗓️ ช่วงเวลาที่น่าเที่ยวที่สุดในเซี่ยงไฮ้ & หางโจว
ฤดูกาล | ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | บรรยากาศ & ประสบการณ์ | คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว |
ฤดูใบไม้ผลิ | เมษายน – พฤษภาคม | อากาศดีที่สุด อากาศเย็นสบายและแห้ง เหมาะสำหรับการเดินเล่นในสวนและเลียบทะเลสาบ | ฤดูท่องเที่ยว จองที่พักและตั๋วรถไฟล่วงหน้า |
ฤดูร้อน | มิถุนายน – สิงหาคม | ร้อนและฝนตกชุก อากาศร้อนชื้นมาก โดยเฉพาะเดือนมิถุนายน (ฤดูฝน) | ควรหลีกเลี่ยง หากไม่ชอบอากาศร้อน แนะนำพกร่มและเสื้อผ้าบางเบา |
ฤดูใบไม้ร่วง | กันยายน – ตุลาคม | วิวสวยที่สุด อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่หางโจวและล่องเรือ | ฤดูท่องเที่ยวพีคสุด ควรรีบจองทุกอย่างล่วงหน้านาน ๆ คำเตือน: งดเดินทางช่วงวันชาติจีน (ต้น ต.ค.) เพราะคนจะเยอะมาก |
ฤดูหนาว | พฤศจิกายน – มีนาคม | หนาวและเงียบสงบ อุณหภูมิต่ำ แต่มีนักท่องเที่ยวเบาบาง | นอกฤดูท่องเที่ยว เหมาะสำหรับคนงบจำกัด เตรียมเสื้อโค้ทและผ้าพันคอให้พร้อม |
ความคิดเห็น